ความสุขเล็กๆของดวงจันทร์ ( kill no more)
เมื่อดวงจันทร์ต้องการคำตอบของ...หัวใจ
ผู้เข้าชมรวม
452
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ทุ่งหญ้าเขียวขจีด้านหลังพระราชวังแห่งราชอณาจักรดราคอนปลิวไสวไปตามสายลมเย็นๆที่พัดมากระทบปลายจมูกของเด็กหนุ่มขี้เซาที่กำลังบิดขี้เกียจด้วยความง่วงงุน ที่กำลังจะล้มตัวลงนอนแผ่ให้สบาย หลังจากทำงานหลังขดหลังแข็งมานาน ถึงแปดชั่วโมง
ความฝันของเขามันคือนอนเฉยๆก็มีกินมีใช้ไปตลอดทั้งชาติน้า!!!!! แล้วนี้มันอะไรกันไอ้ ‘ราชามังกรจอมขี้เกียจ’ นั่นถึงได้โยนงานสารพัดสาระเพมาให้เขาทำจนไม่ได้นอน แถมยังนั่งพร้อมกับประทับตราบ้าๆ อะไรนั่นทั้งวัน แม่เจ้าประคูณ!! มันผิดเจตนารมณ์ชัดๆ
“ไคซ์”
นั่นไงพูดถึงก็มาเลย
“เฮ่อ .นายนี่มันตายยากยิ่งกว่าแมลงสาบพันปีซะอีก มีงานอะไรมาให้ทำอีกหละ งานยิ่งน้อยๆอยู่ “ ไคช์เน้นท้ายประโยคพร้อมทำท่าถมึงทึง . ซึ่งดูยังไงก็ไม่น่ากลัวสักนิด
ฝ่ายผู้มาใหม่ขมวดคิ้วก่อนส่ายหน้าไร้อารมณ์ที่ออกแวว เหม่อลอย “เปล่าหรอก” แค่คิดอะไรเล่นๆเฉย”
“นิสัยคิดฟุ้งซ่านของนายนี่แก้ไม่หายจริงๆ ” ไคซ์พูดเหมือนรู้ใจก่อนจะเอนกายลงนอนต่อ “ มีอะไรก็ว่ามาเหอะปัญหาอะไรท่านกูรูไคซ์คนนี้บ่หยันอยู่แล้ว”
โดยที่ไคซ์ยังไม่ทันรู้ตัว ‘คนคิดมาก’ ก็เอนกายลงนอนอยู่ข้างๆเขาเสียแล้ว พลางพยักหน้าเบาๆ “ อืม”
เมื่อเห็นคนจะถามยังเงียบไคซ์ก็เลยเริ่มพูดก่อน “ นายหนะควรตอบแทนบุญคุณผู้มีพระคุณอย่างฉันบ้างก็ดีนะลีโอลา นายหนะมันตัวซวยชัดๆ ฉันคิดถูกป่าวเนี่ยที่‘รับเลี้ยง’ นาย ตอนนั้นฉันนึกว่านายมีปัญหาชู้รักอะไรกับยาเซียซะอีกแถมยังทำท่าอย่างกับตู้เย็นเดินได้หน้านายมันดูเหมือนจะ ’ฉลาด’เลยนะ หึ แต่ความจริงนายหนะเป็น‘ ไอ้โง่มหาภัยดึงดูดความซวย’ของแท้...รู้งี้เฉดหัวนายไปศูนย์อพยพตั้งแต่ตอนนั้นเลยยังดีกว่าน่าเสียดายชะมัด”
ถึงประโยคที่ไคซ์พูดจะมีแต่ว่าเขาโง่ไม่ก็ เป็นตัวซวย แต่แปลกที่เขาไม่โกรธเลยสักนิดซ้ำยังรู้สึก “ ขอบคุณนะ”
นี่เขาที่เคยเป็นมือสังหาร ‘จันทร์สีเงิน’ จันทร์ที่เย็นเยียบไม่มีความรู้สึกและหัวใจ แต่ตอนนี้
...นี่เขาเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยเหรอ
“ นายนี่ก็เปลี่ยนไปเยอะนะ ลี ..”
ถึงประโยคต่างแต่ใจความเหมือนโดยมิได้นัดหมายดวงตาสีเงิน และ สีฟ้าสวยพลันสบกันด้วยความไม่ได้ตั้งใจของทั้งสองส่งผลให้เจ้าของดวงตาสีฟ้าสวยหน้าแดงระเรื่อ
“ นายมองหน้าหาเรื่องรึไงฮ้า!!! ... ว่าแต่เรื่องที่นายอยากถามมันอะไรเสียเวลาชะมัดยาก “
“ นายมีคนที่รู้ใจนาย เวลาอยู่ ไกลก็เป็นห่วง เวลาอยู่ใกล้ก็รู้สึกอุ่นใจบ้างไหม”
“ ให้ตายเหอะ!ไอ้เฒ่าบาบาลิสหื่นกามนั่นมันกรอกอะไรใส่หูนายอีกหละนั่น!!...คงจะเป็นนายหละมั้งเป็นห่วงว่าจะไปโดนใครหลอกเข้า ไม่ได้ห่วงนายนะห่วงฉันเองเนี่ยแหละที่ต้องตามไปแก้ปัญหาทุกที” ไคซ์ตวาดเสียงดังพลางเหยียดริมฝีปากจิ้มลิ้มแบบเด็กๆนั่นเป็นรอยยิ้มแบบแหยๆ “ อุ่นใจหนะไม่ใช่แค่อุ่นแต่ร้อนเลยมากกว่าหละกลัวคนที่นายไปแหยมเข้ามันจะตามฆ่าฉันแทนหนะสิ” (แต่ยังไงนายก็ยังห่วงใย แถมยังอุ่นใจจนแทบหลอมอยุ่ดีนี่นา: คนเขียน)
“ แล้วแบบนี้เรียกว่า ‘รัก’ ได้รึเปล่า” เสียงแผ่วเบาออกมาจากริมฝีปากของเขาโดยไม่รู้ตัว คงไม่รู้ตัว คงไม่ตั้งใจ
และ อีกฝ่ายก็ ‘คง’ ไม่ได้ยิน
“ ช่างเหอะฉันนอนแล้ว ทำงานมาทั้งวัน “ ไคซ์เบือนหน้าไปอีกทางแล้วโบกมือเป็นเชิงว่า ‘ไปไกลๆฉันจะนอน’
ลีโอลาทำตามคำสั่งไคซ์อย่างว่าง่ายเขาเดินออกไปจากบริเวณนั้นเดินไปตามสายลมที่พัดทำให้ต้นหญ้าสีเขียวนั้นพลิ้วไหว . ถึงลีโอลาจะไม่ได้รับคำตอบ แต่คำตอบอันชัดแจ้งแดงแจ๋ก็ปรากฏอยู่บนพวงแก้มใสของผู้ที่เขาอยากถามเสียแล้ว และ ดูเหมือนในที่สุดเขาก็พบคำตอบของเขาเองแล้วเสียที
ตะวันลับขอบฟ้าผันเปลี่ยนเป็นจันทราเหลืองนวลส่องสว่างดูงดงาม แสงจันทร์ทอดลงบนต้นหญ้าเขียวที่ปลิวไสวไปตามแรงลม ประหนึ่งต้องการมอบแสงอันสว่างอันอบอุ่นให้ต้นหญ้า ไม่อยากเลยให้ตะวันกลับมาเยือนฟ้าอีกครั้ง
...อยากอยู่เคียงข้างต้นหญ้าอันเป็นความสุขเล็กๆของพระจันทร์ไปตลอดกาล
ผลงานอื่นๆ ของ Pensin ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Pensin
ความคิดเห็น